
Ami เล่าเรื่องพรหมลิขิตให้เจอความรักหนุ่ม USA นำพาให้มาใช้ชีวิตต่างแดน ในวันแรกที่ USA ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2021 #ความตื่นเต้นชีวิตรักต่างแดน
บทความนี้ ผู้เขียนนำชีวิตรักต่างแดนมาแบ่งปัน พรหมลิขิตให้พวกเราเจอกัน ต่างชาติต่างภาษาต่างดินแดน แม้เราจะอยู่กันคนละฟากขอบฟ้า แต่เมื่อไรที่พรหมลิขิตให้ความรักมาสู่หัวใจ มันจะนำพาให้เจอกัน
ผู้เขียนเอง เป็นนักกฎหมาย คงจะแปลกมานะ ทำไมทนาความ มาเจอความรักต่างชาติ และที่สำคัญอายุก็ต่างกันถึง 15 ปี โดยที่ผู้เขียนเองตอนที่เจอแฟนมีอายุ 43 ปีกำลังจะเข้า 44 ก็ไม่ใช่อายุเด็กๆ ตัวผู้เขียนเองก็ผ่านการมีความรักมาแล้วหนึ่งครั้งกับคนไทย แต่ด้วยความคิดเห็นนิสัยที่ไม่สอดคล้องกันก็นำพาให้ต้องยุติความสัมพันธ์เลิกกันไปเมื่อปี 2561 และใช้ชีวิตโสด 1 ปีหลังจากนั้น ก็มาเจอแฟนซึ่งก็เป็นสามีในปัจจุบันนั้นเอง
หลายคนคงสงสัยแล้วละสิ เจอกันได้อย่างไร ยุคนี้ ยุคออนไลน์ความรักออนไลน์หาง่าย แต่จะเจอรักแท้หรือไม่อยู่ที่ตัวเรากำหนดและคัดเลือกหารักแท้ แน่นอนออนไลน์มีผู้คนจำนวนมากวิ่งหาคู่ครองผ่านเว็บไซต์หาคู่ หรือแอบหาคู่ หรือหลายคู่ก็เจอความรักในโซเซียลมิเดีย ด้วยยุคนี้มันง่ายมาที่จะหาความรัก แต่จะใช่คู่แท้ที่เราจะได้แต่งงานใช้ชีวิตกับเขาหรือไม่ ก็อีกเรื่องนะคะ
สำหรับผู้เขียนเอง เจอคนรักด้วยแอบหาเพื่อนหาคู่ ที่ชื่อว่า Tinder จุดเริ่มต้นเพราะต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษ อยากมีเพื่อนต่างชาติเพื่อฝึกภาษาอังกฤษ และก็ทำให้เจอคนรักที่แอบนี้ เราใช้เวลาคุยกันเพียงระยะสั้นๆ เพียง 5 เดือนสามีของผู้เขียนก็บินมาประเทศไทยปลายปี 2562 และเราก็ตกลงหมั้นกันเลย
ทำไมพวกเราหมั้นกันเร็วมาก ขอบอกนะคะ หากเราเจอคนที่ใช่แล้ว คุยกันรู้เรื่องคุยกันทุกวัน หัวใจมันจะบอก และที่สำคัญ ความเป็นหวงเป็นใยต่อกันนี้สำคัญมาก สามีมาประเทศไทยครั้งแรกไม่เคยมาประเทศไทยมาก่อน และไม่เคยบินไปประเทศไหนมาก่อนเป็นเวลาถึง 20 ปี นี่ก็คือบททดสอบความรักแท้ส่วนหนึ่ง และเมื่อมาถึงแล้วเขาไม่เคยปฏิเสธการเจอครอบครัวของเรา และที่สำคัญความจริงใจเขาแสดงออกให้กับเราและครอบครัวของเราได้ชัดเจน ความสุภาพของเขา มัดใจเราและครอบครัวของเราทุกคนด้วยความรักจริงใจ พวกเราจึงตัดสินใจหมั้นกันเลย เพราะเราคิดว่า เราทั้งสองคนต่างก็มีอายุมาก รุ่นสูงวัย 555
หลักจากเราหมั้นกันแล้ว คุณสามีของผู้เขียนก็บินกลับประเทศ และในระหว่างนั้น ปี 2563 กระแสโรคโควิดก็เริ่มจะเข้ามาในประเทศไทยแรงขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นปิดประเทศ พวกเราคุยกันเรื่องแต่งงานโดยกำหนดนัดหมายแต่งงานตามประเพณีของประเทศไทยช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 แต่ด้วยกระแสโควิดเข้ามาในประเทศไทย ช่วงต้นปีประมาณเดือนกุมภาพันธ์ คุณสามีของผู้เขียนดูข่าวทุกวัน และพวกเราก็คิดถึงกันทุกวัน คุณสามีกลัวประเทศไทยปิดประเทศเหมือนประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชีย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 คุณสามีก็บินเข้ามาหาผู้เขียนครั้งที่สองก่อนประเทศไทยประกาศปิดประเทศในช่วงเดือนเมษายน หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ได้เจอกันอีกและไม่มีพิธิแต่งงานในประเทศไทย เนื่องจากปัญหาโรคโควิดในประเทศไทย
ด้วยความรักที่พวกเรามีให้กัน คุณสามีได้ทำเรื่องขอวีซ่าไว้ให้กับผู้เขียนตั้งแต่พวกเราเจอกันในครั้งแรก เป็นวีซ่าคู่หมั้น ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ผลอนุมัติเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่า
วันแห่งการรอคอยก็มาถึงวันที่ผู้เขียนบินครั้งแรกเพื่อไป USA เพื่อเจอคนรักของผู้เขียน และเป็นครั้งแรกที่บินคนเดียวโดยไม่รู้ภาษาเลย มันตื่นเต้นมากขอบอกคะ แต่ผู้เขียนโชคดีมากในการเดินทางครั้งนี้ เจอเพื่อนคนไทย เธอไปเรียนที่ประเทศ USA และนั่งอยู่ติดกับผู้เขียน การบินครั้งแรกที่มาพร้อมความโชคดีได้เจอคนไทย เธอนำพาขึ้นเครื่องและต่อเครื่อง เธอเป็นล่ามช่วยแปลภาษาให้ตลอดการเดินทาง
พวกเราถ่ายรูปด้วยกัน มันเป็นเรื่องแปลกมากที่การเดินทางครั้งแรก ที่เรากลัวมาเพราะเดินทางคนเดียวโดยไม่เก่งภาษา และที่สำคัญไม่เคยบินมาก่อน ฉันเชื่อว่าการที่ได้เจอคนไทยครั้งนี้ มาจากแรงอธิษฐานของฉัน "ขอให้โชคดีในการเดินทาง" และฉันก็โชคดีจริง ๆ "ขอบคุณจักรวาล" ฉันเชื่อเรื่องพลังจักรวาล กฎแรงดึงดูด เพราะฉันเจอหลายสิ่งที่เข้ามาในชีวิตจากการอธิษฐานจิต และจากความเชื่อมั่นในพลังจักรวาล และทุกสิ่งก็เริ่มเป็นจริง นี่คือความโชคดีในการเดินทางที่จักรวาลส่งผู้ช่วยมาให้ฉัน ทำให้การเดินทางครั้งแรกของฉันราบรื่น มีความสุขตลอดการเดินทาง
เมื่อผู้เขียนมาถึงสนามบิน ที่ รัฐ ฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) คุณสามีก็มารับ
พวกเราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าไปเมือง Avalon ระหว่างเดินทางผู้เขียนก็ถ่ายรูปตลอด ความรู้สึกตื่นเต้นมากกับการเดินทางครั้งแรกและการเริ่มต้นสิ่งใหม่ เส้นทางชีวิตใหม่ในต่างแดน ขณะที่นั่งรถยนต์ไปกับสามี หัวใจมันเต้นทั้งดีใจและมีความสุขอย่างมาก และพลางคิดในใจว่า "นี่คือประเทศในฝันของฉัน ความฝันของฉันเป็นจริงแล้ว ฉันได้มาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว" ทำให้ผู้เขียนนึกถึงวัยรุ่น ช่วงอายุยี่สิบต้นๆ เคยฝันอยากมาประเทศสหรัฐฯ และตอนนี้ ฉันก็ได้มาที่นี้ ความฝันเป็นจริง
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะแบ่งปันเป้าหมายความฝันใดๆ ที่เรามี มันจะเป็นความจริงได้ 3 สิ่ง
1. สิ่งแรกเป้าหมายมีความชัดเจน คือ กำหนดให้ชัดเจนต้องการให้สำเร็จเมื่อไร และรายละเอียดแผนการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย ความสำเร็จเป็นจริง
หากเป้าหมายเราไม่ชัดเจน มันจะเป็นแค่เพียงความฝัน และมันก็หายไป ผู้เขียนจำได้ ผู้เขียนเคยมีความฝันอยากมาประเทศสหรัฐช่วงอายุยี่สิบต้นๆ เพราะดูภาพยนตร์ ก็นำไปจินตการฝันเห็น และมักจะนึกถึงตัวเองอยู่ในประเทศสหรัฐฯ แต่นั้นก็นานแล้ว หลังจากนั้นก็ทิ้งความฝัน ใช้ชีวิตไม่ได้คิดถึงอีก มีแฟนคนไทยเหมือนคนทั่วไปก็ใช้ชีวิตไป
พอมาช่วงปี 2559 ผู้เขียนเริ่มมีปัญหาชีวิตและความรัก และเมื่อได้เข้าศึกษาพลังจิตจนถึงปี 2561 ตัดสินใจเด็ดขายเลิกกับแฟนคนไทยและมุ่งหน้าทำงาน โดยช่วงที่มาทำงานที่ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯแห่งหนึ่ง ได้มีโอกาศทำงานให้กับต่างชาติเป็นชาวมาเลเซีย และได้มีโอกาสได้รู้จักผู้บริหารพนักงานท่านหนึ่งมาจากสหรัฐอเมริกา ท่านมาดูแลกิจการนำเข้าที่ขายที่สาขาในศูนย์การค้าที่ผู้เขียนทำงานอยู่ เคยเจอกัน 2-3 ครั้งแต่ผู้เขียนไม่เก่งภาษาการพูดคุยต้องมีล่ามช่วยแปล นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองเริ่มสนใจประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง และเริ่มเรียนภาษา และหาแฟนฝรั่ง จนได้เจอสามีคนปัจจุบัน
ผู้เขียนตั้งปฏิธานความชัดเจนว่า "ฉันจะมีสามีจากประเทศสหรัฐอเมริกา และมาใช้ชีวิตที่ประเทศสหรัฐภายในปี 2562 หรือ 25563" โดยเริ่มต้นเขียนเป้าหมายให้ชัดเจน เมื่อมีเป้าหมาย เราก็มีแผนการเพื่อที่จะได้เป้าหมายเป็นจริง ฉะนั้น ทำเป้าหมายและแผนการที่ชัดเจน ความจริงมันย่อมเกิดขึ้น
2. สิ่งที่สอน คือ การจินตการ นึงถึงภาพเป้าหมายสำเร็จบ่อยๆ และมีความรูสึกกับจินตการนั้นด้วย
คือ เราเห็นภาพตัวเองไปล่วงหน้า เห็นตัวเองแต่งงาน อยู่กับคนรักและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในภาพเห็นตัวเองไปในสถานที่ต่างๆ กับคนรัก มีความสุขได้เดินจับมือกันทำอะไรร่วมกัน การจินตนการภาพที่ชัดเจนและมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้ว เราจะรู้สึกดีมีความสุขกับเป้าหมายนั้น เมื่อเราจินตนาการ บ่อยๆ เราจะรูสึกเหมือนเราได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสหรัฐแล้ว แม้ความจริงเราจะยังไม่ได้มาที่นี่
ความลับจินตนาการ มาจากครูคนไทยและต่างชาติที่สอน "พลังกฎแรงดึงดูดสร้างความสำเร็จ" ที่เหลือเชื่อและมันเร่งลัดความสำเร็จ ช่วงที่ผู้เขียนอยู่ประเทศไทย เจอวิกฤตโควิด-19 ขณะนั้น สามีอยู่ในประเทศสหรัฐไม่สามารถบินเข้ามาแต่งงานได้เพราะประเทศไทยประกาศปิดประเทศและสถานการณ์ในประเทศไม่ดี ซึ่งผู้เขียนทำได้ขณะนั้นก็คือ ส่งพลังคำพูดส่งข้อความให้กับคนรัก ให้กำลังใจกัน และรอเวลาเท่านั้น และมักบอกสามีเสมอให้นึกถึงพวกเราอยู่ด้วยกัน โดยจินตนาการเห็นภาพพวกเราอยู่ด้วยกันแต่งงานกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราจะรู้สึกดีมีความสุข นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนทำทุกๆ วัน
3.การลงมือทำอะไรบ้างอย่าง ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย
หากผู้เขียนและสามีแค่รอคอย หรือไม่ทำอะไรเลย พวกเราอาจไม่ได้เจอกันและไม่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ในปีนี้ เหมือนหลายคู่ที่ยืนขอวีซ่าแล้ว แต่ไม่เคยติดตามหรือบางคู่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มาที่สหรัฐฯเลย
เรื่องนี้สำคัญมาก คือ การลงมือทำอะไรบ้างอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมาย เริ่มตั้งแต่เมื่อผู้เขียนมีเป้าหมายที่ชัดเจนต้องการหาแฟนฝรั่งประเทศสหรัฐฯ สิ่งแรกที่เริ่มลงมือทำ คือ การศึกษาเรียนรู้จากผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับผู้ชาย USA หรือมาดามหรือผู้หญิงไทยที่มีสามีและใช้ชีวิตในสหรัฐก่อน โดยผู้เขียนติดตามมาดามหลายคู่ พวกเธออาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเธอทำคลิปสอนการหาแฟน การใช้ชีวิต เราก็จะได้ความรู้ ได้รับอีเดียจากผู้เธอ มันจะช่วยเราได้มาก เราจะมองเห็นเส้นทางสู่เป้าหมายของเรา
นี่คือ เคล็ดลับ 3 สิ่งนี้ทำให้ความฝันเป็นจริงคะ มาถึงตอนนี้ เรามาเดินทางไปเที่ยวในเมืองกันคะ
บทความนี้ เป็นการเล่าเรื่องจากชีวิตจริงของผู้เขียน สามารถติดตามอ่านตอนต่อปีใน Ep. 2 ได้คะ
ติดตามบทความต่อไป : ชีวิตต่างแดน การขอวีซ่า การหางานทำ และพาท่องเที่ยว
►ออกแบบตกแต่งปกและภาพประกอบ จาก : canva : จาก pixabay
►รูปภาพประกอบ จาก Facebook : รูปภาพจริงของผู้เขียนเองทั้งหมด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น